Godzilla 2 The King of Monsters ก๊อตซิลล่า 2 ราชันแห่งมอนสเตอร์

ปูพื้นความรู้ก่อนจะไปชมภาพยนตร์

เรื่องราวของภาพยนตร์ก็อตซิลล่าเรื่องแรก เริ่มต้นขึ้นด้วยเรือประมงหลายลำของญี่ปุ่นถูกจมหายอย่างลึกลับ ทำให้รัฐบาลส่งนักวิทยาศาสตร์เข้าไปตรวจสอบบริเวณหมู่เกาะที่เกิดเหตุ จนพบว่าเป็นฝีมือของสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาที่ชาวบ้านแถบหมู่เกาะขนาดนามว่า ก็อตซิลล่า ดั่งเทพที่เคยบูชาในสมัยก่อนของพวกเขา ก็อตซิลล่าได้บุกขึ้นฝั่งโตเกียวและอาละวาดทำลายอาคารบ้านเมืองเสียหายอย่างหนัก แม้แต่กองทัพทหารก็ไม่สามารถหยุดยั้งความดุร้ายของมันได้ จนกระทั่งนักวิทยาศาสตร์นามว่า ดร.เซริซาว่า ผู้ซึ่งคิดค้น ออกซิเจน เดสทรอยเยอร์ อาวุธลับทรงอานุภาพที่จะย่อยสลายทุกอย่างในบริเวณน่านน้ำ เซริซาว่าตัดสินใจนำเอาอาวุธนี้มาใช้เพื่อกำจัดก็อตซิลล่าและสละชีวิตของเขาเองไปพร้อมกับเจ้าอสูรร้าย เพื่อปกปิดสูตรลับของออกซิเจน เดสทรอยเยอร์ไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของคนผิด

หนังจบลงด้วยประโยคของ ดร. ยามาเนะ ตัวละครอีกคนในเรื่องที่กล่าวไว้ว่า “ถ้าหากยังมีการทดลองอาวุธนิวเคลียร์อยู่ ก็จะมีโอกาศที่จะเกิดก็อตซิลล่าตัวใหม่ขึ้นมาอีก” เป็นคำสอนเกี่ยวกับเรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ก่อนที่หนังจะจบลงพร้อมกับซากโครงกระดูกของก็อตซิลล่านอนอยู่ใต้มหาสมุทร

ก็อตซิลล่าจึงเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของหายนะจากระเบิดนิวเคลียร์ ที่เกิดขึ้นจากน้ำมือมนุษย์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ภาพของสัตว์ยักษ์คำรามสนั่นพร้อมเดินถล่มเมือง และแผดเผาทุกอย่างที่ขวางหน้าด้วยลำแสงนิวเคลียร์ จนบ้านเมืองราบเป็นหน้ากลอง แสดงให้เห็นชัดเจนถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยระเบิดปรมาณูที่ทิ้งลงฮิโรชิม่าและนางาซากิ


ทุกอย่างที่สื่อถึงนัยยะข้อความทางนิวเคลียร์ ยังแสดงออกมาทางรูปกายหน้าตาของตัวก็อดซิลล่าเอง ด้วยผิวหนังที่ขรุขระ ถูกเผาไหม้เกรียม เสมือนเหล่าผู้คนจริงที่ตกเป็นเหยื่อให้กับรังสีปรมาณูในฮิโรชิม่าและนางาซากิ ลำแสงของก็อตซิลล่าที่พ่นออกมาจากปากก็อตซิลล่า ไม่ใช่แค่เพลวไฟร้อนเหมือนมังกรแต่เป็นลำแสงที่มีละอองนิวเคลียร์อานุภาพร้ายแรง มากไปกว่านั้นตัวของก็อตซิลล่าเองยังมีการปนเปื้อนของรังสีจากร่างกายของมัน ไม่ว่ามันจะเดินเหยียบไปที่ใดก็จะทิ้งร่องรอยปนเปื้อนของรังสีนิวเคลียร์อยู่เสมอ

ภาพยนตร์ได้ประสบความสำเร็จมากมาย ทั้งรายได้และคำวิจารณ์ภายในประเทศญี่ปุ่น ตัวหนังได้ออกจัดจำหน่ายฉายที่สหรัฐอเมริกาในชื่อ Godzilla King of the Monsters (1954) อันเป็นจุดกำเนิดแรกของชื่อ “ราชันแห่งมอนสเตอร์” ในภาคใหม่นี้เช่นกัน

ซึ่งต่อภาพยนตร์ก็อตซิลล่าปี 2014 เป็นการปลุกชีพราชันแห่งสัตว์ประหลาดอีกครั้ง โดยสตูดิโอจากอเมริกัน Legendary Pictures หลังจากที่ค่ายต้นสังกัดจากญี่ปุ่นให้มันหลับพักพ่อนไปนานถึง 10 ปีเต็ม ฮอลลีวูดได้กลับมาสร้างภาพยนตร์ก็อตซิลล่าอีกครั้งในแบบที่จริงจัง และพยายามคงความดั้งเดิมแบบก็อตซิลล่าของญี่ปุ่นเอาไว้ให้ชัดเจนที่สุด

โดยก็อตซิลล่าในหนังเรื่องนี้ไม่ได้มีต้นกำเนิดแบบเดียวกับเวอร์ชั่นต้นฉบับของญี่ปุ่น ซึ่งเกิดจากไดโนเสาร์กลายพันธุ์เพราะระเบิดปรมาณู แต่ครั้งนี้มันเป็นสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ที่มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้มานานก่อนจะกำเนิดยุคของไดโนเสาร์เสียอีก ซึ่งมันหลับจำศีลอยู่ได้โดยการดูดกลืนรังสีจากใต้โลกเป็นอาหาร ความหมายของก็อตซิลล่าในหนังเรื่องนี้จึงอาจเปรียบถึง ตัวแทนของโลกหรือตัวแทนธรรมชาติที่อยู่อาศัยมานานก่อนกาล มันเป็นดั่งพลังแห่งธรรมชาติเปรียบเสมือนสึนามิหรือพายุเฮอริเคน ที่มนุษย์ไม่อาจต่อสู้หรือหยุดยั้งมันได้อย่างที่ ตัวละคร ดร.เซริซาว่า พูดประโยคเด็ดประจำหนังเอาไว้ว่า “ความหยิ่งยโสของมนุษย์คิดว่าตัวเองสามารถควบคุมธรรมชาติได้, ปล่อยให้พวกมันสู้กัน”มนุษย์ตัวเล็กจ้อยทำได้แค่เพียงแค่ยืนดูพวกมันต่อสู้กันอยู่ไกลๆ


ผู้กำกับแกเร็ธ เอ็ดเวิร์ดยังเลือกให้ฉากเปิดตัวครั้งแรกของก็อตซิลล่า ในหนังของเขาเป็นคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ซัดถล่มเข้าเมือง ก่อนที่ราชันแห่งสัตว์ประหลาดจะผงาดเดินขึ้นมาบนชายหาด หรือแม้แต่ฉากที่ MUTO สิ่งมีชีวิตปรสิตโบราณที่กินรังสีเป็นอาหาร ได้เอาระเบิดนิวเคลียร์ อาวุธที่สุดทรงพลังของมนุษย์มาเคี้ยวกลืน เหมือนกับว่ามันไม่มีผลร้ายอะไรนอกจากแค่อาหารกินเล่นของมัน

นอกจาก Godzilla (2014) จะเป็นการรีบู้ตเรื่องราวในจักรวาลใหม่ของตัวเองแล้ว ยังมีตัวละครสัตว์ประหลาดอื่นๆอีกมากมายที่เข้ามาแจมในภาพยนตร์ภาคต่อ ซึ่งช่วยเสริมการขยายจักรวาล MonsterVerse ไปในตัว เช่นเดียวกับที่ตัวละคร ดร.ฮิวสตัน บรูคส์ ได้กล่าวเอาไว้ในฉากท้ายเครดิตของหนัง Kong : Skull Island ภาพยนตร์ลำดับที่ 2 ของจักรวาล MonsterVerse พร้อมกับฉายบันทึกของผนังถ้ำโบราณ ที่ปรากฎภาพของก็อตซิลล่าและไททันทั้งสามได้แก่ ราชินีผีเสื้อยักษ์มอธร่า (Mothra) นกยักษ์ทะลายโลหกโรแดน (Rodan) และมังกรสามหัวกิโดร่า (King Ghidorah) เหล่าอสุรกายยักษ์ผู้เคยครอบครองโลกใบนี้มาก่อนมนุษยชาติเมื่อหลายล้านปีก่อน และศึกระหว่างก็อตซิลล่ากับกิโดร่าที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีตกาลอิงจากภาพบนฝาผนัง

Godzilla 2 King of the Monsters

ก็อดซิลล่า 2 ราชันแห่งมอนสเตอร์

เรื่องย่อ : เรื่องราวครั้งใหม่นี้กล่าวถึงความพยายามของ โมนาร์ซ สถาบันวิจัยสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ที่ไม่สามารถระบุได้ เมื่อเหล่าสมาชิกในองค์กรต้องพบกับการต่อสู้กันระหว่างเหล่ามอนสเตอร์ยักษ์ ก็อตซิลล่า ปะทะกับ มอธร่า, โรแดน และคู่ปรับตัวฉกาจอย่าง คิงกิโดร่า เหล่าสัตว์ประหลาดโบราณไม่เป็นเพียงแค่ตำนาน พวกมันฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง จึงต้องต่อสู้กันเพื่อความเป็นสุดยอด สะเทือนถึงการดำรงอยู่ของเผ่าพันธ์มนุษย์ที่เหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้ายเต็มที

ผู้กำกับ : ไมเคิล โดเฮอร์ตี้
นักแสดง : แบรดลีย์ วิทฟอร์ด, มิลล์ บ็อบบี บราวน์, วีรา ฟาร์มิกา, จาง ซิยี่,  โอเชียร์ แจ็คสัน และ ชาร์ล แดนซ์


https://www.youtube.com/watch?v=ui-tCk_O83k

ตัวหนังเล่าเรื่องต่อเนื่องโดยตรงจากหนังภาคแรก (ปี 2014) ของศึกใหญ่ใจกลางกรุงซานฟรานซิสโกระหว่างก็อตซิลล่าและมุโตะ ก่อความเสียหายและความสูญเสียอย่างมหาศาล แถมยังเป็นการเปิดตัวของสัตว์ประหลาดยักษ์แก่สายตาชาวโลกว่าพวกมันมีอยู่จริง องค์กรโมนาร์ซที่ทำหน้าที่ศึกษาวิจัยสัตว์ประหลาดเหล่านี้ ก็ต้องออกมายอมรับถึงเหตุผลที่พวกเขาปกปิดเรื่องสัตว์พวกนี้ไว้เป็นความลับ รอการไต่สวนจากสมาชิกวุฒิสภาเกี่ยวกับเหล่าสัตว์ประหลาดที่มีชื่อเรียกสั้นๆ ว่า “ไททัน”

ตัวหนังเองก็เล่าเรื่องของครอบครัวที่ทำงานให้กับองค์กรโมนาร์ซ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ของศึกในหนังภาคแรก ทำให้ดร.มาร์กผู้เป็นพ่อต้องลาออกจากองค์กรและหย่าร้างกับภรรยา ดร.เอ็มม่า ทิ้งให้เธอเลี้ยงดูลูกสาว แมดิสัน อยู่เพียงลำพัง จนกระทั่งวันหนึ่งเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันเกี่ยวกับงานวิจัยของดร.เอ็มม่าที่มีองค์กรก่อการร้ายที่มีความเกี่ยวโยงกับการปลดปล่อยเหล่าไททันที่จำศีลอยู่ทั่วโลก ซึ่งนำพาไปถึงการสูญพันธ์ของมนุษยชาติ

 

ที่มาข้อมูล : majorcineplex.com, playinone.com